10/05/2019
ผมเสียจากเคมี vs ผมเสียจากความร้อน ดูแลต่างกันอย่างไร?
10/05/2019
ผมเสียจากเคมี vs ผมเสียจากความร้อน ดูแลต่างกันอย่างไร?

ผมเสียจากเคมี vs ผมเสียจากความร้อน ดูแลต่างกันอย่างไร?
“ ผมเสียหนักมาก ทำยังไงดี ? ” เชื่อว่าเป็นปัญหาระดับชาติของสาวๆ ในยุคนี้เลยก็ว่าได้นะคะ  ก็แหม.. เห็นดาราหรือเหล่าเซเลบริตี้ทำสีผมสวยๆ ม้วนลอนผมงามๆ จะอดใจไม่ทำตามได้ไงเนอะ  แต่ถ้าทำแล้วเราดูแลเส้นผมไม่ดีพอก็กลายเป็นปัญหาให้กลุ้มใจตามมาอีก ทั้งผมเสีย แห้งกรอบ แตกปลาย ขนาดซื้อของใช้ตามบล็อกเกอร์ก็แล้ว แต่ก็ยังรู้สึกว่าผมเสียอยู่ดี ทำไมล่ะ!? 

นั่นอาจเป็นเพราะเรากำลังแก้ไขปัญหาของเส้นผมได้ไม่ตรงจุด ในฐานะที่มิลบอนเป็นกูรูด้านเส้นผม เราเลยแบ่งผมเสียออกเป็น 2 ประเภท นั่นคือ “ผมเสียจากเคมี” และ “ผมเสียจากความร้อน” ว่าแล้วเรามาวิเคราะห์พร้อมกันเลยดีกว่า ว่าเส้นผมของคุณนั้นเสียแบบไหน จะได้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ถูกต้องตรงจุดกันค่ะ

1. ผมเสียจากเคมี

ลักษณะผม : เส้นผมจะมีความแห้ง เบา ชี้ฟู ไม่มีน้ำหนัก เพราะสารเคมีได้เข้าไปทำลายโปรตีน (หรือ ที่เราเรียกกันว่าเนื้อผม) ในเส้นผมให้หลุดออก รวมไปถึงเกล็ดผมที่อยู่รอบนอกสุดของเส้นผม ก็จะถูกทำลายไปด้วย จึงทำให้เส้นผมหยาบกระด้าง ขาดความเงางาม ซึ่งเส้นผมจะโดนทำลายมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับความถี่ในการโดนสารเคมี รวมไปถึงความแรงของสารเคมีนั้นๆ ด้วย และในบางเคสที่ทำเคมีซ้ำซ้อนมามากๆ เส้นผมจะมีลักษณะแตกปลาย อ่อนแอ เสียหายง่ายขึ้น เมื่อโดนเคมีอีกครั้งก็อาจจะรุนแรงถึงขั้นผมขาดเลยก็มีนะคะ 

วิธีดูแล  : เพราะผมเสียจากการทำเคมี ทำให้โปรตีนในเส้นผมถูกทำลายจนหลุดออกไป จึงควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เน้นการ “เติมเคราติน” เพื่อเข้าไปซ่อมแซม หรือใช้สารบำรุงที่สามารถเติมเต็มเนื้อผมให้กลับมาหนาแน่นอีกครั้ง:

Milbon Recommended
แต่ละคนก็มีระดับความเสียหายของเส้นผมที่แตกต่างกัน  เรามาดูกันค่ะว่าเส้นผมของเราเสียอยู่ในระดับไหน และควรใช้ผลิตภัณฑ์อะไรถึงจะตอบโจทย์มากที่สุด

ผมเสียจากเคมี Level 1  
Milbon Smooth
เหมาะกับเส้นผมที่ถูกทำลายรอบนอกจนเกล็ดผมเปิด จึงทำให้ผมพันกัน เวลาหวีแล้วสางออกยาก แถมยังขาดความเงางาม แต่ยังไม่ถึงขั้นชี้ฟู ซึ่งสูตร SMOOTH นี้จะเน้นการปิดเกล็ดผมเป็นหลัก จึงทำให้เส้นผมกลับมาเงางาม เรียบลื่น หวีง่ายขึ้น  

ผมเสียจากเคมี Level 2  
Milbon Moisture เหมาะกับเส้นผมที่ถูกทำลายขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง และมีการสูญเสียน้ำในเส้นผมออกไปมาก เมื่อสัมผัสผมแล้วไม่มีความนุ่มมือแต่กลับแห้งและหยาบ ขาดน้ำหนัก จัดทรงยาก ซึ่งสูตร MOSTURE นี้จะช่วยเติมความชุ่มชื้นลงไปได้ล้ำลึกถึงแกนผม เส้นผมที่เคยชี้ฟูก็จะกลับมาอิ่มน้ำ มีน้ำหนัก และทิ้งตัวสวย

ผมเสียจากเคมี Level 3  
Milbon Repair เหมาะกับเส้นผมที่ถูกทำลายขั้นสุดจากการทำเคมีซ้ำซ้อน ทั้งทำสี ดัด ยืด บ่อยๆ ซ้ำๆ รวมไปถึงการฟอกผม ซึ่งเส้นผมลักษณะนี้จะมีความแห้ง ขาดความยืดหยุ่น ลองทดสอบง่ายๆด้วยการดึงผมดู ถ้าเปราะขาดง่ายก็แสดงว่าผมคุณกำลังมีปัญหาจนแตกปลาย หรือที่เรียกว่าปลายผมช็อต เพราะแทบไม่หลงเหลือโปรตีนที่ทำหน้าที่เป็นเนื้อผมแล้ว  ซึ่งสูตร REPAIR นี้จะมีเทคโนโลยี  Double Repair Technology ที่สามารถสร้างพันธะเคราตินขึ้นมาใหม่ในเส้นผมและเติมความหนาแน่นไปพร้อมๆ กัน เส้นผมที่เคยอ่อนแอ ก็จะกลับมาแข็งแรง ดูมีเนื้อผมมากขึ้น พร้อมรับมือกับการทำเคมีในครั้งต่อไป 

2. ผมเสียจากความร้อน

ลักษณะผม : เส้นผมที่ถูกความร้อนบ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการเป่าไดร์ ม้วนผม หนีบตรง จะทำให้เส้นผมมีลักษณะแห้งกรอบ สัมผัสแข็งกระด้าง ไม่นุ่มลื่น มิลบอนได้ศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจัง จนค้นพบว่าจริงๆ แล้วสาเหตุนั้นเกิดจาก “ พันธะภายในเส้นผมจับตัวกันจนแข็ง ”  ซึ่งโดยปกติแล้ว เมื่อเราสระผม น้ำจะทำให้พันธะต่างๆในเส้นผมคลายตัว เราจะรู้สึกว่าผมอ่อนนุ่ม แต่เมื่อปล่อยให้ผมแห้ง พันธะจะกลับมาผสานกันอีกครั้ง จึงทำให้เส้นผมแข็งขึ้น และเมื่อโดนความร้อน ก็ยิ่งทำให้พันธะยิ่งจับตัวกันแน่นมากขึ้น ทำให้ผมยิ่งแข็ง แห้งกระด้างมากขึ้นไปอีก 

วิธีดูแล : เพราะความร้อนเป็นสาเหตุที่ทำให้เส้นผมขาดความชุ่มชื้น แห้งกรอบ จนทำให้สาวๆ รู้สึกว่าผมแข็ง ไม่นุ่มสลวย จึงควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เน้นเติมน้ำ พร้อมมอบความชุ่มชื้น ยืดหยุ่นให้กับเส้นผม เพื่อให้เส้นผมอ่อนนุ่มน่าสัมผัสมากขึ้น 

Milbon Recommened

สาวคนไหนที่คิดไว้แล้วว่ายังไงก็ต้องเซ็ตผมด้วยความร้อน ชีวิตนี้ฉันขาดไดร์ไม่ได้
มิลบอนขอแนะนำ Jemile Fran Heatgloss เลยค่ะ เพราะเป็นแชมพูทรีตเมนต์ที่อุดมไปด้วยนวัตกรรมเคราติน CMADK เอกสิทธิ์จากมิลบอน มีหน้าที่เข้าไปซ่อมแซมเส้นผมจากความร้อน พร้อมกรดไฮยาลูรอนิคนาโนโมเลกุลที่ช่วยเติมความชุ่มชื้น อิ่มน้ำในเส้นผม และช่วยเปิดทางให้ Aqua Butter เข้าไปคลายพันธะต่างๆที่เกิดจากความร้อนและจับตัวกันจนผมแข็งกระด้างให้หมดไป เส้นผมจึงนุ่มสลวย ยืดหยุ่นขึ้น พร้อมเทคโนโลยี Heatgloss PTT ที่จะเข้าไปยึดเกาะและซ่อมแซมเส้นผมในส่วนที่เสียหาย และเมื่อเวลาที่เส้นผมสัมผัสกับความร้อน เจ้า Heatgloss PTT ตัวนี้ก็จะทำปฏิกิริยาหลอมละลายกลายเป็นแผ่นฟิล์มบางๆ เคลือบเส้นผมให้เงางามมากขึ้น กลายเป็นว่ายิ่งใช้ความร้อน เส้นผมก็ยิ่งเงางามเปล่งประกาย ถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ให้สาวๆ มีทรงผมที่สวยงาม ไปพร้อมๆ กับความเงางามและนุ่มลื่นทุกวันอย่างแท้จริง 

keyboard_arrow_up