19/02/2018
MILBON DA INSPIRE 2017
19/02/2018
MILBON DA INSPIRE 2017

วันนี้เราจะพาสาวๆ ไปรู้จักกับงาน DA INSPIRE 2017 ( DA มาจากคำว่า Designer Ability ) เป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้ดีไซเนอร์เจเนอเรชั่นใหม่เข้ามาประชันความสามารถในการทำแฮร์ดีไซน์หรือการออกแบบทรงผม  DA เป็นอีเวนท์ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีโดยแบรนด์มิลบอน และได้รับการตอบรับที่ล้นหลามจากบรรดาซาลอนและแฮร์สไตลิสต์ทั่วญี่ปุ่น เราขออาสาพาเพื่อนๆ ย้อนเวลาไปปี 2017 เพื่อเกาะขอบเวทีที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น พร้อมๆกันเลยค่ะ

ทุกๆ ปี จะมีผู้เข้าร่วมการแข่งขันจากแต่ละภูมิภาคกว่า 200 คน และในแต่ละครั้งจะมีแฮร์สไตลิสต์จากทุกสารทิศเข้ามาเยี่ยมชมกว่า 3,000-4,000 คนเลยทีเดียว โดยจะมีการจัดแข่งขันทั้งหมด 9 แห่งใน 4 ประเทศ คือ เกาหลี ไต้หวัน มาเลเซีย และญี่ปุ่นอีก 6 แห่ง ซึ่งผู้ชนะในแต่ละภูมิภาคจะผ่านเข้าสู่รอบ DA Grand-Prix final และแข่งขันกันต่อเพื่อที่จะได้เป็น DA of the Year พร้อมได้รับเกียรติให้เป็นกรรมการกิตติมศักดิ์ในการแข่งขัน DA รอบต่อไป

ในปีนี้คอนเซปต์ของงานถูกจัดขึ้นในธีม REALITIVE ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างความ REAL (รูปลักษณ์ตามธรรมชาติของนางแบบ) กับ CREATIVE (สไตล์แฟชั่นที่จะนำมาเป็นต้นแบบในการดีไซน์) ซึ่งการออกแบบทรงผมจะต้องทำให้เหมาะกับบุคลิกของนางแบบคนนั้น แต่ยังไม่ทิ้งสไตล์แฟชั่นที่วางไว้ในตอนแรก และผู้เข้าแข่งขันจะต้องออกแบบทรงผมโดยผสมผสานอิมเมจทั้งสองแบบตามโจทย์ที่เลือกไว้ ภายใน 30 นาทีเท่านั้น!

แฮร์สไตลิสต์ผู้เข้าแข่งขันต้องครีเอททั้งรูปแบบทรงผมและแฟชั่นการแต่งกายรวมไปถึงเมคอัพ ซึ่งโจทย์ของแต่ละคนจะถูกวางไว้ด้านหน้าของนางแบบเพื่อพรีเซนต์ให้กรรมการได้พิจารณากัน และถ้าคอนเซปต์นั้นต้องทำสีผมด้วย ผู้เข้าแข่งขันก็จะต้องเตรียมสีผมนางแบบก่อนวันงาน ด้วยผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผม ORDEVE จากมิลบอน และใช้เวลาตัดและเซ็ตสไตล์ออกมาให้เสร็จภายในงานตามเวลาที่กำหนด

ผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนต่างพกความมั่นใจและงัดความสามารถออกมาใช้อย่างเต็มที่ มีความคล่องแคล่วและมากฝีมือในสไตล์ของตัวเอง ทำให้บรรยากาศของการแข่งขันเป็นไปอย่างเข้มข้น แต่งานนี้ขอบอกเลยว่า ไม่เพียงแต่นางแบบเท่านั้นที่มีการแต่งตัวและสไตล์โดดเด่น บรรดาเหล่าแฮร์สไตลิสต์ทั้งที่เข้าแข่งขันและที่มาร่วมชมงาน ก็แต่งตัวกันมาเต็มที่ นี่นึกว่าอยู่ในงานแฟชั่นวีคเลยนะคะเนี่ย

เมื่อหมดเวลาการแข่งขัน ทุกคนต้องวางอุปกรณ์และหยุดทุกอย่าง แล้วก็ถึงเวลาที่นางแบบทุกคนต้องขึ้นโชว์ตัว เพื่อให้กรรมการให้คะแนน ถือเป็นช่วงที่กรรมการต้องหนักใจเพราะความสามารถของผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนนั้นไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ ด้วยฝีมือที่เฉียบขาดบวกกับความตั้งใจทำให้ผลงานที่ได้สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับกรรมการและผู้เข้าชมเป็นอย่างมาก ครีเอทโทเทิลลุคของนางแบบได้อย่างมีสไตล์ เข้ากันทั้งทรงผม สีผม สไตล์ลิ่ง และการแต่งตัว

แฟชั่นโชว์จากเหล่านางแบบที่ถูกผู้เข้าแข่งขันครีเอทลุคให้ใหม่นั้นสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ร่วมงานจนอดไม่ได้ที่จะต้องหยิบกล้องขึ้นมาเก็บภาพบรรยากาศ เพราะถ้าหากได้ชมตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของการแข่งขัน จะเห็นได้ชัดถึงความแตกต่างของนางแบบที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน 

และแล้วก็มาถึงช่วงเวลาที่เราต่างรอคอย นั่นคือการประกาศผล ซึ่งผู้ชนะรางวัล Grand-Prix ที่โตเกียวในปีนี้ คือแฮร์สไตลิสต์จากร้าน Bianca  และต้องเตรียมตัวเข้าสู่รอบ DA Grand-Prix final เพื่อชิงเป็น DA of the Year กับผู้ชนะในภูมิภาคอื่นๆ อีก 8 ท่านต่อไป

ผลงานผู้ชนะ Grand-Prix ของโตเกียวในปีนี้ เป็นการออกแบบทรงผมที่ดัดแปลงทรงซอยสั้นธรรมชาติให้เข้ากับทรงผมแนวอาวองการ์ด ด้วยสีผมหลายเลเยอร์และเทคนิคการเซ็ตที่ทำให้ชนะใจกรรมการและได้ตำแหน่งผู้ชนะไปครองในที่สุด

ภาพรวมของงาน ทำให้เห็นถึงเทรนด์แฟชั่นของโตเกียวในปีนี้ได้ดีเลยว่า คาแรคเตอร์และสไตล์การแต่งตัวที่เท่นั้นมาแรงจริง ๆ เน้นไปที่ทรงผมที่ดูทะมัดทะแมงและเลือกสีผมที่ชัดเจนเพื่อบ่งบอกความเป็นตัวเอง อย่างสีผมคอลเลคชั่นใหม่ Ordeve Addicthy จากมิลบอน ที่แฮร์สไตลิสต์หลายคนเลือกใช้ให้เหล่านางแบบในงาน

นอกจากจะได้อัปเดตเทรนด์แฟชั่นแล้ว งานนี้ยังถือเป็นการรวมตัวกันของเหล่าแฮร์สไตลิสต์มากฝีมือที่มาร่วมงาน ทั้งในฐานะผู้เข้าแข่งขัน คณะกรรมการ และผู้ร่วมงานที่เข้ามาแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน และยังเป็นส่วนช่วยในการยกระดับความสามารถและเป็นแรงบันดาลใจให้กับสไตลิสต์ทุกคนให้ตื่นตัวและอยากจะพัฒนาฝีมือความสามารถยิ่งขึ้นไป ในครั้งหน้ามิลบอนจะพาสาว ๆ ไปตามติดกิจกรรมดี ๆ อะไรอีกบ้างนั้น อย่าลืมติดตามกันต่อไปนะคะ

keyboard_arrow_up