30/01/2020
จริงไหม? กับความเชื่อที่ว่าใช้ Haircare ตัวเดิมไปนานๆ แล้วเริ่มไม่เห็นผล?
30/01/2020
จริงไหม? กับความเชื่อที่ว่าใช้ Haircare ตัวเดิมไปนานๆ แล้วเริ่มไม่เห็นผล?

เคยไหมคะ? ซื้อแชมพูมาใช้ ตอนแรกรู้สึกว่าดีมาก ผมดูสวยขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจนยกให้เป็นลูกรัก แต่พอใช้สูตรเดิมไปเรื่อยๆ ก็เริ่มไม่เห็นการเปลี่ยนแปลง เหมือนเส้นผมเกิดอาการดื้อยาเฉยชากับแชมพูเราขึ้นมาซะงั้น จนต้องเปลี่ยนแชมพูไปเรื่อยๆ วันนี้มิลบอนเลยจะมาไขข้อข้องใจให้ฟังค่ะว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น? 

สภาพเส้นผมเปลี่ยนไป
หลายคนอาจจะเข้าใจผิด คิดว่าแชมพูที่เคยใช้เปลี่ยนสูตรหรือมีประสิทธิภาพไม่เหมือนเดิม แต่ความจริงแล้ว "เส้นผม" ของเราต่างหากที่เปลี่ยนไป อย่างเช่น คนที่ทำสีผมหรือฟอกผมบ่อยๆ ก็จะเลือกใช้สูตร Repair ที่เข้าไปฟื้นฟูและเติมเต็มเคราตินให้เส้นผม จนรู้สึกว่าผมหนาแน่น แข็งแรงขึ้นจนรู้สึกได้ แต่พอใช้ติดต่อกันไปเรื่อยๆ ก็เริ่มรู้สึกเฉยๆ ไม่ฟินเหมือนเดิม ที่เป็นแบบนั้นก็เพราะว่าเส้นผมของเราได้รับการซ่่อมแซมจนเคลียร์ปัญหาจบไปแล้ว เมื่อใช้ Repair ที่เน้นการฟื้นฟูเส้นผมอีกจึงรู้สึกไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป

= >> อยากรู้ว่าตัวเองเหมาะกับ milbon สูตรไหน คลิก ที่นี่ เลยค่า

อากาศ
จริงๆ แล้วเส้นผมก็ Sensitive ไม่ต่างจากผิวหน้าเลยนะคะ จะสังเกตได้ว่าเมื่ออากาศเริ่มแห้งลง หนังศีรษะและเส้นผมของเราก็จะแห้งไปด้วย หรือในช่วงอากาศร้อนๆ หนังศีรษะก็มันง่าย จนผมเหนียวเหนอะหนะ ซึ่งถ้าเราใช้แฮร์แคร์สูตรเดิมวนไปทั้งปี ก็จะรู้สึกว่าใช้ดีเป็นพักๆ เพราะแฮร์แคร์แต่ละชนิดนั้นจะมีคุณสมบัติและเหมาะกับสภาพอากาศที่แตกต่างกัน เพราะฉะนั้นการเลือกใช้แฮร์แคร์ให้เหมาะกับสภาพฝนฟ้าอากาศจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งค่ะ
 

ปัญหาเอจจิ้งหรืออายุที่เพิ่มขึ้น
รู้ไหมคะ? ว่าปัญหาเอจจิ้งก็ส่งผลต่อหนังศีรษะและเส้นผมเหมือนกันนะ เพราะเมื่ออายุของเราเพิ่มขึ้น ประสิทธิภาพของการต่อต้านอนุมูลอิสระก็ลดลง เลยส่งผลให้เส้นผมที่เคยนิ่มสลวย กลายเป็นหงิกงอ ขาดความเงางาม จัดทรงยาก ไม่มีชีวิตชีวาเหมือนเมื่อก่อน และแน่นอนว่าแฮร์แคร์ที่เคยใช้ดี ก็รู้สึกไม่เห็นผลเหมือนเดิม เพราะหนังศีรษะและเส้นผมของเราเข้าโหมดเอจจิ้งไปแล้ว แต่ถึงแม้ว่าเราจะฝืนธรรมชาติไม่ได้ แต่เราเลือกใช้แฮร์แคร์ที่เหมาะกับเราได้นะคะ

น้ำ
เป็นปัจจัยสำคัญที่หลายคนมักคาดไม่ถึง เพราะอย่าลืมนะคะว่าเราใช้น้ำเป็นส่วนสำคัญในการสระผม ซึ่งน้ำที่เราใช้อยู่นั้น คือ "น้ำประปา" ที่มีคลอรีนผสมอยู่เพื่อฆ่าเชื้อโรค เมื่อคลอรีนเจอกับสารชะล้างในแชมพูก็จะทำปฏิกิริยากัน ซึ่งในน้ำคลอรีนแต่ละพื้นที่ก็จะมีค่า pH ความเป็นด่างที่แตกต่างกันไป บางทีเราจึงรู้สึกว่าทำไมเวลาเราใช้ที่บ้านดี๊ดี แต่พอเอาไปใช้ตอนไปเที่ยวกลับไม่ว้าวเหมือนเดิม นอกจากนี้ "ปัญหาน้ำเค็ม" ที่ชาวกรุงเทพเจอกันอยู่ตอนนี้ก็มีผลเช่นกันนะคะ นั่นเป็นเพราะว่า "ความเข้มข้นของเกลือในน้ำ" จะมีผลต่อการแยกตัวของน้ำมันหรือซิลิโคนบางตัวในแชมพู จึงทำให้แชมพูไม่เป็นเนื้อเดียวกัน 100 % และทำให้เกิดฟองน้อยกว่าปกติ นี่เป็นสาเหตุเดียวกันว่าทำไมเวลาเราสระผมหลังจากเล่นน้ำทะเลแล้วรู้สึกว่าผมฝืดนั่นเองค่ะ 

keyboard_arrow_up